BOQ ย่อมาจาก “Bill of Quantities” ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ในการกำหนดและระบุงบประมาณค่าใช้จ่าย (cost estimate) ของการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ อาทิเช่น การสร้างบ้านหรือโครงการก่อสร้างอื่น ๆ

ขั้นตอนคำนวณ BOQ มีดังนี้:

  1. วางแผนและออกแบบ: ต้องวางแผนและออกแบบโครงการก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงระบุขอบเขตและรายละเอียดของงานที่จะดำเนินการ
  2. ระบุรายการงาน: ควรระบุรายละเอียดของงานทั้งหมดที่จะดำเนินการ รวมถึงวัสดุและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ รวมถึงระบุปริมาณหน่วยงานของแต่ละรายการ
  3. การตรวจสอบราคา: จากนั้นต้องทำการตรวจสอบราคาของวัสดุและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ให้เป็นราคาที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับคุณภาพที่ต้องการ
  4. สร้าง BOQ: ในขั้นตอนสุดท้าย จะต้องรวบรวมรายการงานและราคาที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้านี้เข้าไปใน BOQ เพื่อให้ได้เอกสารที่ชัดเจนและสมบูรณ์ ซึ่งจะใช้ในการสร้างสัญญากับผู้รับเหมาในภายหลัง

การป้องกันการโกงของผู้รับเหมาในกระบวนการ BOQ นั้น เราสามารถทำได้โดยการดำเนินการดังนี้:

  1. การตรวจสอบเอกสารและราคา: ตรวจสอบว่าเอกสารและราคาที่ระบุใน BOQ เป็นที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับข้อกำหนดในสัญญา โดยการทำการวิเคราะห์ในขั้นตอนการตรวจสอบราคาให้รอบคอบ
  1. การเลือกผู้รับเหมาที่เชื่อถือได้: คัดเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชื่อถือได้ และมีประสบการณ์ในการดำเนินงานก่อสร้าง ควรตรวจสอบประวัติและความสามารถของผู้รับเหมาก่อนที่จะทำสัญญา
  2. การกำหนดสัญญาและคำนวณค่าตอบแทน: ระบุสัญญาให้ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับงานที่ต้องทำ รวมถึงการกำหนดราคาตั้งต้นและวิธีการคำนวณค่าตอบแทนเพิ่มเติมหากมีการเปลี่ยนแปลงหรืองานเพิ่มเติมในภายหลัง
  3. การตรวจสอบและติดตามงาน: ควรตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานเป็นระยะเวลาตลอดการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับเหมาดำเนินงานตามระยะเวลาที่กำหนดและตามคุณภาพที่ต้องการ

ผู้รับเหมาโกงต้องทำอย่างไร

เพื่อป้องกันผู้รับเหมาโกงในกระบวนการก่อสร้าง คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

  1. การคัดเลือกผู้รับเหมาที่เชื่อถือได้: ให้คำแนะนำให้คัดเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชื่อถือได้และมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง สามารถตรวจสอบประวัติและความเชื่อถือของผู้รับเหมาก่อนที่จะเลือกใช้บริการของพวกเขา
  2. สัญญาและข้อกำหนด: ก่อนที่จะเริ่มต้นงานก่อสร้าง ให้ทำสัญญาที่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนและครอบคลุม ระบุขอบเขตของงาน รายละเอียดทางเทคนิค และเงื่อนไขการชำระเงินเป็นต้น เพื่อป้องกันความขัดแย้งในภายหลัง
  3. การตรวจสอบและติดตามงาน: ควรตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับเหมาดำเนินงานตามแผนและคุณภาพที่ต้องการ หากพบข้อผิดพลาดหรือความไม่เหมาะสม ให้ทำการแก้ไขหรือรายงานให้ทราบทันที
  4. การตรวจสอบวัสดุและวัสดุอุปกรณ์: ตรวจสอบว่าวัสดุและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ควรเลือกใช้วัสดุจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีความเป็นมืออาชีพ
  1. การชำระเงิน: ควรกำหนดระยะเวลาและวิธีการชำระเงินให้เหมาะสม และระบุเงื่อนไขการชำระเงินในสัญญา เพื่อป้องกันความไม่เหมาะสมหรือการขาดความสัมพันธ์ระหว่างการชำระเงินกับงานที่ดำเนินการ
  2. การตรวจสอบการบัญชี: ตรวจสอบการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรายการค่าใช้จ่าย และให้ความโปร่งใสในการเงิน
  3. การรายงานผู้มีอำนาจ: หากพบการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือการโกงจากผู้รับเหมา ควรรายงานให้ผู้มีอำนาจ เช่น องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือมาตรการที่เหมาะสม