ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังเล็งจะซื้อบ้านหรือคอนโดในช่วงนี้ แล้วเห็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งว่า “ยุบสภา” หลายคนอาจจะรู้สึกหวั่นใจว่าเศรษฐกิจจะพังไหม? การเมืองจะวุ่นวายจนบ้านที่จองไว้จะมีปัญหาหรือเปล่า? แต่เชื่อไหมว่าในมุมมองของดีเวลลอปเปอร์และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระดับบิ๊กหลายเจ้า เขากลับมองว่านี่คือ “ระฆังช่วยชีวิต” ที่ดังได้ถูกจังหวะสุด ๆ

ย้อนกลับไปในช่วงค่ำวันที่ 11 December 2025 ที่มีการประกาศเดินหน้าเรื่อง “ยุบสภา” อย่างเป็นทางการ บรรยากาศในวงการธุรกิจไม่ได้ดูอึมครึมอย่างที่คิดครับ เพราะสิ่งที่ตลาดอสังหาฯ กลัวที่สุดไม่ใช่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือ “ความไม่แน่นอน” (Uncertainty) ต่างหาก การยุบสภาครั้งนี้จึงเหมือนการเคลียร์กระดานใหม่ เพื่อให้ได้ไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าเราจะไปเลือกตั้งกันวันที่ 8 February 2026 ตามรายงานจาก Reuters ซึ่งความชัดเจนนี้แหละคือ “กุญแจสำคัญ” ที่จะปลดล็อกความกังวลของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

1. ความชัดเจนคือ “ออกซิเจน” ของคนซื้อบ้าน

ลองนึกภาพดูครับ เวลาเราจะกู้หนี้ก้อนโต 20-30 ปีเพื่อซื้อบ้านสักหลัง สิ่งแรกที่เราต้องการคือความมั่นใจว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า นโยบายรัฐจะเป็นยังไง มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองจะยังอยู่ไหม หรือดอกเบี้ยนโยบายจะพุ่งไปทิศทางไหน ที่ผ่านมาตลาดมัน “ค้างเติ่ง” เพราะคนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลชุดเดิมจะอยู่ยาวแค่ไหน นโยบายที่ประกาศออกมาจะถูกพับเก็บไหม พอมีการยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอน มันทำให้คนกล้าขยับตัวมากขึ้น เพราะอย่างน้อยเราก็รู้ว่า “จุดเปลี่ยน” อยู่ตรงไหน และรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาต้องรีบปั๊มผลงานเศรษฐกิจเพื่อเรียกคะแนนเสียงแน่นอน

2. ปลดล็อกงบปี 2570 (Budget 2027) ประเด็นใหญ่ที่ห้ามมองข้าม

ไฮไลต์ที่คนในวงการอย่าง Issara Boonyoung จากสภาหอการค้าไทย และหลายสำนักข่าวอย่าง Bangkokbiznews ให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่อง “งบประมาณ” ครับ ต้องยอมรับว่าฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยคือการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะงบปี 2570 (Budget 2027) ที่กำลังจะมาถึง หากการเมืองลากยาว งบตัวนี้อาจจะคลอดออกมาไม่ทันเวลา ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นโดมิโน ทั้งการจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย หรือแม้แต่โปรเจกต์ถนนหนทางในต่างจังหวัด การเลือกตั้งที่เร็วขึ้นหมายถึงรัฐบาลใหม่จะมีเวลาจัดทำงบปี 2570 ให้ทันกรอบเวลา ป้องกันภาวะ “สุญญากาศทางการเงิน” ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต (อย่างเช่นยุคก่อนหน้านี้ที่งบล่าช้าจน GDP แทบไม่กระดิก) เมื่อเงินรัฐไหลคล่อง มือคนทำงานก็มีเงิน กำลังซื้ออสังหาฯ ก็จะฟื้นกลับมาเอง

3. ส่องทิศทางอสังหาฯ ปี 2569: เมื่อยักษ์ใหญ่ปรับตัว

จากข้อมูลที่เราเห็นในช่วงปลายปี 2025 ตลาดบ้านบ้านเราไม่ได้อยู่ในช่วงที่ “ซื้อง่ายขายคล่อง” เหมือนเมื่อก่อน ปัญหาหลักคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่สูงลิ่ว และ “อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ” (Rejection Rate) จากธนาคารที่โหดจนคนกุมขมับ (บางโครงการโดนปฏิเสธถึง 50-70% โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การยุบสภาครั้งนี้อาจนำไปสู่การ “รื้อโครงสร้าง” ครั้งใหญ่ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่ารัฐบาลใหม่อาจต้องออกมาตรการกระตุ้นที่รุนแรงกว่าเดิม เช่น การขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan to Value) เพื่อให้คนกู้ได้ง่ายขึ้น หรือมาตรการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาถือครองอสังหาฯ ได้สะดวกขึ้นเพื่อกระตุ้น Yield ในภาพรวม

4. ยุคแห่งความชัดเจน: “ยิ่งตั้งรัฐบาลไว ยิ่งได้เปรียบ”

คำกล่าวของภาคเอกชนที่บอกว่า “ยิ่งเลือกตั้งเร็ว ยิ่งดีต่อเศรษฐกิจ” ไม่ใช่เรื่องเกินจริงครับ เพราะช่วง “รัฐบาลรักษาการ” อำนาจในการตัดสินใจโครงการใหม่ ๆ จะถูกจำกัดตามกรอบกฎหมาย ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนกดปุ่ม Pause ไว้ แต่ถ้าหลังวันที่ 8 February 2026 เราได้รัฐบาลที่นิ่งเร็ว ทิศทางเศรษฐกิจชัดเจน เราอาจจะได้เห็น “พายุโปรโมชัน” จากดีเวลลอปเปอร์ที่อั้นมานาน ทั้งส่วนลดแบบจัดเต็ม ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน หรือแม้แต่การร่วมทุนกับธนาคารเพื่อทำดอกเบี้ยเรตพิเศษ เพื่อดึงดูดให้คนกลับมาเซ็นสัญญาซื้อบ้านกันอีกครั้ง

5. ข้อควรรู้สำหรับคน “อยากมีบ้าน” ในช่วงรอยต่อ

แม้ข่าวการยุบสภาจะเป็นสัญญาณบวก แต่ในฐานะคนซื้อ เราก็ต้อง “ทำการบ้าน” ให้หนักกว่าเดิมครับ:

  • เช็กกระแสเงินสด: ในยุคที่ดอกเบี้ยยังมีความผันผวน การมีเงินสำรองหรือเงินดาวน์ที่มากหน่อยจะช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะ
  • อย่ารีบเพราะ FOMO: (Fear of Missing Out) แม้จะเห็นโปรโมชันแรง ๆ ในช่วงเลือกตั้ง แต่ต้องดูว่าทำเลและฟังก์ชันบ้านตอบโจทย์เราจริงไหม
  • ตามข่าวนโยบายที่อยู่อาศัย: รัฐบาลใหม่อาจจะมีนโยบาย “บ้านหลังแรก” หรือสิทธิพิเศษทางภาษีรูปแบบใหม่ ๆ ที่อาจจะคุ้มค่ากว่าเดิมก็ได้

สรุปสั้น ๆ คือ วงการอสังหาฯ ไม่ได้ดีใจเพราะมีเลือกตั้ง แต่เขาดีใจเพราะ “ความชัดเจน” กำลังจะกลับมา การยุบสภาครั้งนี้จึงไม่ใช่จุดจบ แต่มันคือปุ่ม Refresh ที่จะทำให้ตลาดบ้านและคอนโดในปี 2569 กลับมาคึกคักและมีสีสันอีกครั้งครับ!

FAQ:

  1. ยุบสภาแล้ว ตลาดอสังหาฯ จะกลับมาบูมทันทีเลยไหม? ตอบ: คงไม่บูมแบบทันทีทันใดครับ แต่มันคือการสร้าง “ความเชื่อมั่น” (Sentiment) ให้กลับมา บรรยากาศการตัดสินใจจะดีขึ้นเพราะคนเริ่มเห็นไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศ และนโยบายเศรษฐกิจจะไปทางไหน ทำให้ความลังเลลดน้อยลง
  2. ทำไม “งบปี 2570” ถึงสำคัญกับคนจะซื้อบ้านขนาดนั้น? ตอบ: เพราะงบประมาณรัฐคือเครื่องยนต์หลักของประเทศครับ ถ้างบออกทัน โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนน และการจ้างงานต่าง ๆ ก็จะเดินหน้าต่อได้ เมื่อเศรษฐกิจมีแรงส่ง รายได้ของประชาชนก็มั่นคงขึ้น ทำให้ธนาคารกล้าปล่อยกู้และคนกล้าตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้นนั่นเอง
  3. ช่วงที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการแบบนี้ ควรชะลอการซื้อบ้านไปก่อนดีไหม? ตอบ: ขึ้นอยู่กับ “ความพร้อมส่วนตัว” และ “เงื่อนไข” ครับ ถ้าเจอโครงการที่ถูกใจในทำเลที่ใช่ และมีโปรโมชันที่คุ้มค่ามาก ๆ (เพราะผู้ประกอบการมักจะเร่งยอดในช่วงนี้) ก็อาจเป็นจังหวะที่ดี แต่ต้องมั่นใจเรื่องความสามารถในการผ่อนด้วยนะ เพราะนโยบายดอกเบี้ยหลังเลือกตั้งอาจจะมีการขยับได้อีก